สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนถึง 145%! ผู้เชี่ยวชาญชี้หากขึ้นภาษีเกิน 60% ต่อไปก็ไม่มีความแตกต่าง

นอกจากนี้ อัตราภาษีสำหรับ “พัสดุมูลค่าต่ำ” ได้รับการปรับขึ้นเป็น 120%
การปรับครั้งนี้เป็นครั้งที่สามในรอบ 8 วันสำหรับพัสดุมูลค่าต่ำ ตามคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับล่าสุดที่ลงนามโดยทรัมป์เมื่อวันที่ 9 เมษายน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม พัสดุที่ส่งจากจีนไปยังสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 เหรียญสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษี 120% ซึ่งก่อนหน้านี้เพียง 2 วัน อัตราภาษีอยู่ที่ 90% ซึ่งขณะนี้เพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์แล้ว
คำสั่งยังระบุด้วยว่า:
ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมถึง 31 พฤษภาคม พัสดุมูลค่าต่ำที่เข้าสู่สหรัฐฯ จะถูกเรียกเก็บภาษีชิ้นละ 100 เหรียญสหรัฐฯ (เดิม 75 เหรียญสหรัฐฯ)
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน อัตราค่าธรรมเนียมสำหรับพัสดุที่เข้าจะเพิ่มขึ้นเป็นชิ้นละ 200 เหรียญสหรัฐฯ (เดิมคือ 150 เหรียญสหรัฐฯ)
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าหากอัตราภาษีเกิน 60% การขึ้นราคาต่อไปก็ไม่สร้างความแตกต่าง
ในการอภิปรายเรื่องภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ และจีนกับศาสตราจารย์เจิ้ง หย่งเหนียน ผู้อำนวยการสถาบัน Qianhai International Institute for Advanced Studies แห่งมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (เซินเจิ้น) เขาได้กล่าวว่า:
เจิ้ง หย่งเหนียน: สงครามภาษีมีขอบเขตจำกัด เมื่อภาษีเพิ่มขึ้นถึง 60%-70% ก็เท่ากับการขึ้นเป็น 500% นั่นคือไม่สามารถทำธุรกิจใดๆ ได้ ซึ่งหมายถึงการแยกธุรกิจออกจากกัน
เมื่อวันพฤหัสบดี ทรัมป์ขู่ว่าหากประเทศต่างๆ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้ เขาจะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการระงับ "ภาษีศุลกากรซึ่งกันและกัน" สำหรับประเทศต่างๆ เป็นเวลา 90 วัน และจะเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น
ซึ่งยังบ่งชี้ว่าสหรัฐฯ ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว การกำหนดภาษีศุลกากรที่เข้มงวดของสหรัฐฯ เผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการกระทำเช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นอีกในระยะยาว ฝ่ายจีนยังคงยืนหยัดในจุดยืนที่เข้มแข็งมาโดยตลอด โดยระบุว่าการบังคับ ข่มขู่ และกรรโชกทรัพย์ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องที่จะใช้กับจีน